เครือข่ายภาคประชาชนร่วมแสดงพลังสนับสนุนร่างพรบ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ หน้าทำเนียบและหน้ารัฐสภา
5 ตุลาคม 2553


เมื่อเวลา 8.00 น. วันที่ 5 ตุลาคม 2553 เครือข่ายภาคประชาชน 15 เครือข่ายจำนวน 2,500 คน อาทิ เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ ประเทศไทย เครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ นำโดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง นายนิมิตร์ เทียนอุดม น.ส.สุภัทรา นาคะผิว และนางปรียานันท์ ล้อเสริมวัฒนา ไส่เสื้อยืดสีขาว เขียนข้อความว่า คุ้มครองผู้เสียหาย รับภาระแทนผู้ให้บริการ ..พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ รวมตัวกันหน้าทำเนียบยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลให้คำมั่นสัญญาว่าจะผลักดันให้ ร่างพรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ... เข้าพิจารณาในวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฏรให้ทันภายในสมัยประชุมนี้ ก่อนที่สภาจะปิดในวันที่ 28 พฤศจิกายน
ต่อมาเวลา 9.40 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิสิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมารับหนังสือพร้อมกับยืนยันว่า จะมอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่เปิดการเจรจาพูดคุยร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ในวันที่ 12 ตุลาคม เวลา 13.30 น. เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน หลังจากนั้นรมต.สธ.จะรวบรวมข้อเสนอรายงานต่อประธานรัฐสภา
นายนิมิตร์ เทียนอุดม กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตัวแทนกรรมการภาคประชาชน เข้าร่วมประชุมทุกครั้ง ไม่เคยเดินwalk out ออกจากห้องประชุม มีแต่สมาพันธ์แพทย์และพยาบาลเท่านั้น
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง กล่าวถึงประเด็นหลักการสำคัญ 3 ข้อของกฎหมายฉบับนี้ที่เป็นจุดเห็นร่วมกันทั้งแพทย์และประชาชนคือ 1 ) ผู้รับบริการได้รับการเยียวยา 2) แพทย์และผู้ให้บริการสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ ลดปัญหาการฟ้องร้องแพทย์ 3) เพื่อนำเอาบทเรียนหรือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมาปรับปรุงพัฒนาระบบบริการเพื่อป้องกันความเสียหายไม่ให้เกิดขึ้นอีก
เวลา 10.30 น. เครือข่ายภาคประชาชนได้เคลื่อนขบวนไปสมทบกับเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ที่รวมตัวกันหน้ารัฐสภา ชูป้ายข้อความ เบื่อฟ้องหมอ ขอพรบ.คุ้มครองผู้เสียหาย และมีป้ายคล้องคอ เหยื่อ สมาชิกเครือข่ายหลายคนมีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ บางคนนั่งบนรถเข็น ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มาพร้อมกับญาติและผู้ดูแล
จากนั้น เวลา 12.30 น. น.ส.สารี อ๋องสมหวัง พร้อมตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนจำนวน 27 คน เข้าพบและยื่นหนังสือต่อนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฏรคนที่ 1 ที่ห้องวิบฝ่ายค้าน อาคารรัฐสภา เพื่อขอหลักประกันว่า รัฐสภาจะทำหน้าที่ช่วยเร่งรัดให้ร่างพรบ.ฉบับนี้ได้รับการพิจารณาให้ทันสมัยวาระประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยกล่าวว่า ภาคประชาชนมีความเห็นใจฝ่ายที่คัดค้าน ดังนั้นทำอย่างไรที่รัฐสภามีหลักประกันให้กลุ่มคัดค้านสบายใจ เช่น มีตัวแทนกรรมการร่วมพิจารณาจากทุกฝ่าย ลดปัญหาการเดินwalk out
นายสามารถ แก้วมีชัย ได้ยืนยันกับผู้แทนเครือข่ายว่า สภาผู้แทนราษฏรได้บรรจุร่างพรบ.ฉบับนี้ในระเบียบวาระเรื่องด่วนแล้ว และมีร่างพรบ.รอเข้าพิจารณาทั้งหมด 7 ร่าง ซึ่งรวมร่างของภาคประชาชนและร่างของคณะรัฐมนตรีด้วย ตามธรรมเนียมปฎิบัติ สภาจะยึดร่างฉบับของคณะรัฐมนตรีเป็นหลักในการพิจารณา โดยมีกรรมการที่เป็นผู้แทนจากร่างพรบ.ทั้ง 7 ฉบับเข้าไปนำเสนอร่างของตัวเองในที่ประชุมสภาฯ และขอยืนยันว่าสภาฯจะเร่งรัดให้มีการพิจารณาให้ทันสมัยประชุมนี้แน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างวิบรัฐบาลและวิบฝ่ายค้าน และน่าจะไม่มีใครขัดข้องหากฝ่ายรัฐบาลเสนอเรื่องนี้ขึ้นมา หลังจากนั้นผู้แทนเครือข่ายฯได้ขอให้นายสามารถ ลงไปพบปะพูดคุยกับประชาชนที่มาชุมนุมหน้ารัฐสภา ซึ่งนายสามารถได้ลงมาพูดคุยกับเครือข่ายภาคประชาชนว่า ร่างพรบ.ฉบับนี้จะพิจารณาได้เร็วหรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายรัฐบาล แต่เมื่อมีร่างของครม.เสนอเข้ามาด้วย ก็เป็นข้อยืนยันว่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้แน่นอน
จากนั้น น.ส.สารี อ๋องสมหวัง นางปรียานันท์ ล้อเสริมวัฒนา และผู้แทนเครือข่ายได้เข้าพบนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ที่ห้องรับรองอาคารรัฐสภา 2 เพื่อขอให้วุฒิสภาทำหน้าที่ช่วยหยิบยกเรื่องนี้โดยสามารถช่วยตั้งกะทู้ถามสดในสภาด้วย พร้อมกล่าวว่า การฟ้องหมอ ไม่ใช่เจตนาของเรา แต่เราต้องการลดการฟ้องร้อง และไม่มุ่งค้นหาผู้เสียหาย และการที่คนไข้สู้กับหมอก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยนายประสพสุข ได้กล่าวกับผู้แทนเครือข่ายว่า วุฒิสภาจะมีการสัมมนาเรื่องนี้ในวันพุธนี้ เวลา 9.00 น. วุฒิสมาชิกที่เป็นหมอก็เห็นว่า ก.ม.นี่มีความขัดแย้งกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น และผมก็เห็นด้วยกับหลักการของกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองผู้เสียหาย และมีการชดใช้เกิดขึ้น แต่ก็ต้องรอขั้นตอนการพิจารณาของสภาก่อน
น.ส. สุภัทรา นาคะผิว แกนนำเครือข่าย ได้กล่าวกับผู้ชุมนุมหน้ารัฐสภาในตอนท้าย โดยยืนยันว่าภาคประชาชนต้องการให้ร่างพรบ.ฉบับนี้เข้าพิจารณาในวาระการประชุมสภาฯ ให้ทันภายในสมัยประชุมนี้ หากเสนอไม่ทันสมัยประชุมภายในวันที่ 28 พฤศจิกายน เราจะกลับมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้ง หลังจากนั้นผู้ชุมนุมได้แยกย้ายเดินทางกลับในเวลา 15.00 น. |